ปิดดีลหมื่นล้าน! พล. อ. ดร. อุทัย ชินวัตร ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ออกใบรับรองผลโครงการ ‘ดูไบ คริปโต ยูนิคอร์น’ เจาะกลุ่มคนยุคมิลเลนเนียมทั่วโลกกว่า 1.8 พันล้านคน ขับเคลื่อนเศษฐกิจไทย และดึงเงินลงทุนใหม่ๆ เข้าประเทศ
ข่าวความเคลื่อนไหวโลกการเงินในประเทศไทยที่น่าตื่นเต้น และน่าจับตามองเวลานี้ คงเป็นประเด็นที่ พล.อ. ดร. อุทัย ชินวัตร อดีตรองปลัดกระทรวงกลาโหม และอดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษา บริษัท แคปปิตอล ทรัสต์ กรุ๊ป จำกัด โดยยินยอมให้บริษัทฯ ใช้ลายมือชื่อออกใบรับรองผลการแข่งขันซื้อขายของโครงการ “ดูไบ คริปโต ยูนิคอร์น” ซึ่งเป็นการจัดแข่งขันซื้อขายกองทุนบิทคอยน์ และหุ้นบลูชิพระดับโลก รวมถึงสิทธิ์การประชาสัมพันธ์ต่อสาธารณะ โดยตั้งเป้ากลุ่มคนยุคมิลเลนเนียมทั่วโลกกว่า 1.8 พันล้านคน โดยเฉพาะกลุ่มนักเรียนจีนกว่า 400 ล้านคน เข้าร่วมประลองฝีมือการแข่งขันซื้อขายเพื่อเพิ่มพูนความรู้ด้านการลงทุน ผ่านการแข่งขันซื้อขายตามมหาเศรษฐีชั้นนำระดับโลกผ่านโปรแกรมของ บริษัท แคปปิตอล ทรัสต์ จำกัด
ในการนี้ พล. อ. ดร. อุทัย ชินวัตร จำกัดจำนวนการออกใบรับรองแบบออนไลน์สูงสุดที่ 100 ล้านใบรับรองต่อปี และจะได้รับรายได้จำนวน 5 เหรียญสหรัฐ ต่อหนึ่งใบรับรองต่อครั้ง ทำให้ พล.อ. ดร.อุทัย ชินวัตร มีโอกาสรับรายได้สูงสุดที่ 500 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 16,000 ล้านบาทต่อปี รวมระยะเวลาสัญญาทั้งสิ้น 4 ปี ซึ่งไม่ใช่ทุกคนที่จะมีสิทธิ์ได้ใบรับรองผลการแข่งขันซื้อขายนี้ เพราะใบรับรองที่ถูกลงนามและอนุมัติโดย พล. อ. ดร. อุทัย ชินวัตร จะไปสู่ผู้สมัครแข่งขันซื้อขายที่ทำกำไรจากการเข้าร่วมการแข่งขันซื้อขายแต่ละรายการเท่านั้น
ที่สำคัญในแต่ละการแข่งขันซื้อขายจากจำนวนการแข่งขัน 30,000 รายการ จะถูกประชาสัมพันธ์โดยผู้ที่ได้รับใบอนุญาตในการจัดแข่งขัน (Promoter) (ผู้ประกอบการที่สมัครร่วมโครงการบ่มเพาะธุรกิจ ดูไบ คริปโต ยูนิคอร์น ที่เป็นผู้จัดแข่งขันซื้อขายกองทุนบิทคอยน์ และหุ้นบลูชิพระดับโลก เพื่อสร้างรายได้จากผู้สมัครร่วมแข่งขัน และจากการขายกลยุทธ์การซื้อขายของผู้เข้าร่วมแข่งขันที่ทำกำไรได้)
สำหรับผู้ที่ต้องการขอรับใบรับรองผลการแข่งขันซื้อขายนี้ จะมีค่าออกใบรับรองจำนวน 39 เหรียญสหรัฐต่อครั้ง ยกเว้นผู้ที่ชนะ 3 อันดับแรกจากการแข่งขันซื้อขาย ซึ่งถือเป็นการแสดงคุณค่าให้กับผู้แข่งขันที่ทำกำไรได้สูงสุด โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการออกค่าใบรับรองดังกล่าว เป็นการสร้างกำลังใจให้ผู้เข้าร่วมแข่งขันทั้งหมด
นอกเหนือจากการออกใบรับรองผลการแข่งขันการซื้อขายกองทุนบิทคอยน์ และหุ้นบลูชิพระดับโลกแล้ว พล.อ.ดร. อุทัย ชินวัตร ยังสนับสนุนการให้ใช้ลายมือชื่อ ในการออกใบรับรองผลการอบรมหลักสูตรการสร้างพอร์ทลงทุนเรียนรู้การซื้อขายหุ้นตามมหาเศรษฐีระดับโลก โดยไม่คิดค่าสอนแบบออนไลน์ เช่น Chris Horn, Jim Simons, Ken Griffin, Steven Cohen, และ Chase Coleman ที่มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารรวมกันมากกว่า 500 พันล้านเหรียญ
บย็อง จุน ชุน อดีตทูตยูเอ็น และที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ บริษัท แคปปิตอล ทรัสต์ กรุ๊ป จำกัด อธิบายเพิ่มเติมว่า “โครงการที่เราริเริ่มทำนี้จะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงต่อชีวิตของคนจำนวนมาก เชื่อ หรือไม่ว่า ทุกวันนี้นักเรียนจีนกว่า 400 ล้านคน ไม่มีประสบการณ์ในการซื้อขายหุ้นบลูชิพในตลาดหลักทรัพย์อเมริกา เราจึงมีความยินดีที่หาเพื่อนร่วมงานมาประชาสัมพันธ์ และจัดการแข่งขันซื้อขายกองทุนบิทคอยน์ และหุ้นบลูชิพระดับโลก ด้วยบัญชีจริง ในขณะเดียวกันเราจะให้ความรู้ เพิ่มทักษะ และสอนวิธีสร้างช่องทางลงทุน เหมือนกองทุนระดับโลก เช่น กองทุนเทมาเส็ก, กองทุนจอร์จ โซรอส, กลุ่มบริษัทประกัน เอ. ไอ. เอ. หรือแม้แต่มหาวิทยาลัยระดับโลกอย่าง เยล ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยเปลี่ยนทัศนคติของเด็กนักเรียนรุ่นใหม่ที่พร้อมจะเข้ามาแสวงหาความรู้ตรงนี้
ทั้งนี้ พล. อ. ดร. อุทัย ชินวัตร ได้ริเริ่ม และดำเนินโครงการนี้เพื่อสนับสนุนความรู้ด้านการเงินแก่เยาวชน ซึ่งการที่เยาวชนมีความรู้เรื่องการเงินนั้นจะทำให้ปัญหาความยากจนทั่วโลกลดลงในระยะยาว พล. อ. ดร. อุทัย ชินวัตร เชื่อว่าโครงการนี้จะสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย และพัฒนามาตรฐานชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยให้ดีขึ้น จากการเพิ่มช่องทางกระจายสินค้า และดึงเงินลงทุนใหม่ๆ เข้าประเทศ.
ด้าน นายโฮเซ ริเวร่า ประธานมูลนิธิ ฟอร์เทียส แคปปิตอล เจ้าของใบอนุญาตโครงการ “ดูไบ คริปโต ยูนิคอร์น” จากนครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กล่าวว่า “เรามีความภาคภูมิใจที่ พล. อ. ดร.อุ ทัย ชินวัตร ได้ใช้ชื่อเสียง และความน่าเชื่อถือส่วนตัวเข้ามาสนับสนุนโครงการ “ดูไบ คริปโต ยูนิคอร์น” ซึ่งโครงการนี้ไม่เพียงจะสามารถทำให้ พล. อ. ดร. อุทัย ชินวัตร มีโอกาสเป็นมหาเศรษฐีคนที่ 2 จากตระกูลชินวัตร แต่ยังสามารถช่วยให้ประเทศไทยมีช่องทางการจำหน่ายสินค้าของวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม (เอส.เอ็ม.อี.) ที่มีสัดส่วนร้อยละ 40 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศไทยอย่างยั่งยืน
สำหรับผู้ที่สนใจต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักสูตรการเรียน วิธีการสร้างช่องทางลงทุน และเรียนรู้การซื้อขายหุ้นตามมหาเศรษฐี ผู้จัดการกองทุนชั้นนำระดับโลก โดยไม่คิดค่าสอน แบบออนไลน์ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ https://www.fortiuscapitalfoundation.com/freecourse ได้ตั้งแต่วันนี้
ข่าวต้นฉบับ: https://finance.yahoo.com/news/general-dr-uthai-shinawatra-signals-120000046.html ,